การเกี่ยวข้องกับสมาร์ทโฟนมากเกินไปไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนักศึกษาในวิทยาลัยโดยเฉลี่ยใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลากว่าเก้าชั่วโมงในแต่ละวัน
ซึ่งนั่นมีความยาวมากกว่าที่นักเรียนหลายๆคนทำการนอนหลับเสียอีก
ในความจริงแล้ว การใช้งานโทรศัพท์มือถือที่มากเกินไปแสดงให้เห็นว่า
เทคโนโลยีสามารถที่จะเป็นสิ่งเสพติดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ค้นพบจากการศึกษาใหม่
การเสพติดเป็นชนิดหนึ่งของอาการที่ควบคุมไม่ได้และไม่ดีต่อสุขภาพ
มันเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า
มนุษย์สามารถเริ่มที่จะเสพติดยา เช่นแอลกอฮอล์ นาโคติค และนิโคตินในบุหรี่ได้ “มนุษย์ก็ยังสามารถที่จะเสพติดการกระทำได้อีกด้วย”
James Roberts กล่าว เขาเป็นศาสตราจารย์ทางด้านการตลาดที่ Baylor
University ใน Waco รัฐเทกซัส Roberts ยังเป็นผู้นำการศึกษาใหม่ในครั้งนี้อีกด้วย
มันถูกตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการระดับนานาชาติ Journal of Behavioral
Addictions ในเดือนสิงหาคม ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือบางคนแสดงให้เห็นถึงอาการที่คล้ายกันกับการเสพติดยา
Roberts อธิบาย
คนกลุ่มหนึ่งใช้สมาร์ทโฟนเพื่อยกระดับทางด้านอารมณ์
และมันอาจจะใช้เวลามากขึ้นไปอีกกับโทรศัพท์เพื่อที่จะสร้างระดับความสุขของพวกเขา
“สำหรับกลุ่มคนที่ทำโทรศัพท์หาย
หรือแบตเตอรี่หมดสามารถก่อให้เกิดความกังวลและความตื่นตระหนกตกใจได้นั้น
นั่นคืออาการขาดยารูปแบบหนึ่ง” Roberts กล่าว
“การใช้งานโทรศัพท์ที่มากเกินไปสามารถที่จะรบกวนกิจกรรมปกติหรือก่อให้เกิดความขัดแย้งกับครอบครัวหรือบุคคลอื่นได้”
เขากล่าวเสริม “แต่แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายทางสังคมเหล่านี้อยู่
คนส่วนมากไม่อาจจะตัดการใช้โทรศัพท์เป็นเวลานานได้ จริงๆแล้ว
คนเราอาจจะไม่สามารถหยุดใช้พวกมันได้เลย” เขากล่าว
การศึกษาใหม่ได้ขอให้นักศึกษาวิทยาลัยบอกเกี่ยวกับเวลาที่ใข้ในการทำกิจกรรมต่างๆกับโทรศัพท์มือถือของพวกเขา
และยังถามถึงเกี่ยวกับความเห็นว่าพวกเขาเห็นด้วยมากน้อยแค่ไหนกับข้อความแนะนำที่เกี่ยวกับอาการเสพติดที่เป็นไปได้ของโทรศัพท์มือถือ
“ฉันใช้เวลามากกว่าการใช้โทรศัพท์มือถือ” นี่คือข้อความที่หนึ่ง “ฉันรู้สึกปั่นป่วนเมื่อโทรศัพท์มือถือของฉันไม่อยู่ในสายตา”
นี่คือข้อความอีกอันหนึ่ง ยิ่งมีคนโทรเข้ามากเท่าไหร่
ยิ่งมีแนวโน้มที่พวกเขาจะแสดงอาการเสพติด
ข้อมูลที่ได้ยังมีความแตกต่างกันระหว่างผู้หญิงและผู้ชายอีกด้วย
ในกลุ่มของผู้ชาย สัญญาณที่เป็นได้ของอาการเสพติดจะเป็นความสัมพันธ์เชิงบวก หรือมีความสัมพันธ์กัน
กับเวลาที่พวกเขาใช้ไปกับ Bible แอพพลิเคชั่นและแอพพลิเคชั่นอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการอ่านหนังสือ
เมื่อมีการใช้งานแอพพลิเคชั่นอื่นๆเพิ่มขึ้น ก็จะมีความเสี่ยงต่อการเสพติด
การใช้แอพพลิเคชั่นทางสังคมของผู้ชายนั้น เช่น facebook twitter และ instagram จะมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของอาการเสพติด
ผู้หญิง มีแนวโน้มที่จะแสดงสัญญาณเสพติดถ้าพวกเขาใช้
Pinterest Instagram Amazon และแอพพลิเคชั่นที่ปล่อยให้พวกใช้มือถือของพวกเขาเองได้คล้ายกับไอพอด
แอพพลิเคชั่น Bible Twitter Pandora และ Spotify แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์แบบย้อนกลับ นั่นคือ
การใช้งานแอพพลิเคชั่นเหล่านั้นเป็นจำนวนมากจะสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่น้อยลงของการเสพติดโทรศัพท์มือถือ
ความสัมพันธ์นั้นไม่ได้พิสูจน์ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ก่อเกิดสิ่งอื่น
แต่ความสัมพันธ์เหล่านั้นสามารถที่จะนำมาซึ่งเบาะแสที่มีประโยชน์ Roberts กล่าวว่า “ผลของการศึกษาชี้ให้เห็นถึงชนิดของรางวัล
โดยในแต่ละเพศอาจจะค้นหาจากการใช้โทรศัพท์มือถือ ยกตัวอย่างเช่น
เทคโนโลยีการใช้ของผู้ชาย จะมีมากในส่วนของความบันเทิงและการให้ข้อมูล”
“การใช้งานของผู้หญิงจะมีมากในส่วนของการรักษาและการบำรุงความสัมพันธ์ทางสังคม”
เขากล่าว ชนิดของกิจกรรมเหล่านี้บ่อยครั้งต้องใช้เวลาที่มาก
และโดยเฉลี่ย ผู้หญิงจะใช้มือถือต่อวันนานกว่าผู้ชายใช้
แต่เป็นเรื่องปกติ
เพราะว่าคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นจำนวนมากไม่ได้หมายความว่าพวกเขามีอาการเสพติด
Tracii Ryan เป็นนักจิตวิทยาที่
RMIT University ในเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
เธอยังเป็นผู้นำทางด้านการรายงานเกี่ยวกับการเสพติด facebook ซึ่งตีพิมพ์อยู่ในวารสารทางวิชาการ Journal of Behavioral
Addictions “อาการขาดยาและการใช้ที่มากเกินไปเป็นสองอาการเสพติดที่ชัดเจน”
เธอชี้ให้เห็น แต่เธอกล่าวเสริมว่า “ไม่ได้มีแค่สองอาการเท่านั้นที่จัดเป็นอาการในด้านการวินิจฉัย”
Roberts แสดงความเห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม เขาชี้ให้เห็นว่า
ไม่ได้มีการวัดที่ดีสำหรับการวัดปัจจัยทั้งหมดของการเสพติดโทรศัพท์มือถือ
Ryan ทำในจุดที่คล้ายๆกันเกี่ยวกับการศึกษาการเสพติด
Facebook “นักวิจัยไม่ได้วัดอาการเสยพ์ติด facebook โดยใช้อาการเสพติดทั้งหมดที่ยอมรับได้” เธอพูด “การวิจัยที่มีความแน่นอนกว่านี้ยังคงเป็นที่ต้องการอยู่”
แต่รายงานของ Ryan ได้เสนอเหตุผลหลักว่าทำไมคนเราถึงใช้ facebook
บางคนต้องการติดต่อกับเพื่อน บางคนต้องการเวลาที่ผ่านไปแล้ว
บางคนต้องการความบันเทิง บางคนต้องการหาเพื่อนฝูง
“หนึ่งในแรงจูงใจเหล่านี้อาจจะก่อให้เกิดการยกระดับทางด้านอารมณ์
ซึ่งนำไปสู่การเสพติด facebook” Ryan กล่าว
บางคนอาจจะเปลี่ยน facebook เป็นที่ผ่อนคลายความเหงา
แต่บางคนอาจจะใช้เป็นช่องทางที่ก่อให้เกิดปัญหาก็ได้เช่นกัน
“จุดสำคัญที่ได้จากสองการศึกษาคือ
การใช้เทคโนโลยีสามารถก่อให้เกิดการเสพติดได้ในกลุ่มคนบางคน” Ryan กล่าว
นักวิจัยกล่าวว่า “ให้จำไว้ว่า
เทคโนโลยีช่วยพวกเราได้เมื่อมันเป็นแค่เครื่องมือ
แต่ไม่ใช่เมื่อมันเป็นสิ่งเสพติดที่มีผลต่อสุขภาพ”
ที่มา : http://www.vcharkarn.com/vnews/500130